THE 2-MINUTE RULE FOR เศรษฐกิจโลก 1000 ปี

The 2-Minute Rule for เศรษฐกิจโลก 1000 ปี

The 2-Minute Rule for เศรษฐกิจโลก 1000 ปี

Blog Article

ลักษณะของความขัดแย้งทางอุดมการณ์และพรมแดนเชิงกายภาพที่แบ่งทวีปยุโรปออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งทุนนิยมเสรีและฝั่งคอมมิวนิสต์ ฝั่งทุนนิยมเสรี นำโดยสหรัฐอเมริกาอยู่ภายใต้การปกครองหลายระบอบส่วนใหญ่คือระบอบประชาธิปไตย มีการดำเนินเศรษฐกิจแบบเสรีซึ่งให้เสรีแก่ภาคเอกชนในการเลือกดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจ เอกชนมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินสามารถเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตและทรัพย์สินต่างๆที่ตนหามาได้ ซึ่งประเทศในยุโรปตะวันตกล้วนดำเนินการระบบเศรษฐกิจในรูปแบบนี้ภายใต้การช่วยเหลือทางการเงินของสหรัฐอเมริกา

อังกฤษประเทศที่พัฒนาอุตสาหกรรมจนก้าวหน้าสิ่งที่ต้องการในเวลานี้คือวัตถุดิบและตลาด หลังสูญเสียดินแดนอาณานิคมอย่างสหรัฐอเมริกาทำให้อังกฤษต้องหาอาณานิคมแห่งใหม่ เหยื่อรายแรกคืออินเดีย อดีตจักรวรรดิที่มั่งคั่งไปด้วยอารยธรรมและอุดมไปด้วยเครื่องเทศแต่ข้อเสียเปรียบคือความขัดแย้งทางด้านศาสนา เหยื่อรายถัดมาคือประเทศจีน จากการที่ชาวจีนติดฝิ่น ส่งผลให้อาชญากรรมพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ จนจักรวรรดิเต้ากวงต้องสั่งให้ยุติการค้าฝิ่นกับอังกฤษ และยึดฝิ่นทั้งหมดในโกดังไปทิ้งลงทะเล จึงทำให้เกิดสงครามฝิ่น ผลของสงครามทำให้จีนพ่ายแพ้จนเกิดสนธิสัญญานานกิงและยกเกาะฮ่องกงให้แก่อังกฤษ ผู้แทนอังกฤษประจำฮ่องกงมีชื่อเรียกว่า เซอร์จอห์น เบาว์ริ่ง ซึ่งเป็นคนเดียวกับผู้ที่เข้ามามีบทบาทกับราชสำนักสยามในสนธิสัญญาบาว์ริ่ง

ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม การเมือง การปกครอง

อีกฟากหนึ่งของทวีปเอเชียกองทัพญี่ปุ่นซึ่งยึดครองคาบสมุทรเกาหลี และจีนบางส่วน โดยเฉพาะในนานกิงทหารญี่ปุ่นได้สังหารหมู่ชาวจีนในเมืองมากกว่าสี่แสนคน การกระทำอันอุกอาจนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนกับญี่ปุ่นยังคงย่ำแย่มาถึงปัจจุบัน แสนยานุภาพของกองทัพทำให้จักรวรรดิญี่ปุ่นเป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย กองทัพญี่ปุ่นได้บุกยึดครองดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบทั้งหมด รวมถึงบังคับให้รัฐสยามยอมเป็นทางผ่านไปยังพม่า ภายไต้ฝุ่นควันของสงครามความกดดันบีบคั้นนำมาสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่

ความเจริญทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ก่อให้เกิดความเจริญทางเทคโนโลยี

อุปกรณ์เครื่องเขียน เครื่องใช้สำนักงาน-อุปกรณ์การอ่าน

ด้วยความพร้อมและองค์กรความรู้ด้านอวกาศที่สะสมมา ยานอวกาศบุกตัน ของสหภาพโซเวียตได้นำมนุษย์คนแรกออกไปโคจรรอบโลกได้เป็นผลสำเร็จ มนุษย์อวกาศคนนี้มีชื่อว่า ยูรีกาการิน ในอีกหนึ่งเดือนถัดมาสหรัฐอเมริกาก็ส่งมนุษย์คนแรกเดินทางสู่อวกาศเช่นกัน คืออลันเชปเพิร์ด ทั้งสองชาติต่างแข่งขันกันพัฒนาการสำรวจอวกาศทั้งดวงจันทร์และดวงดาว แต่แล้วโครงการอะพอลโลสิบเอ็ดของสหรัฐอเมริกาก็ทำให้ทั้งโลกต้องตกตะลึงเมื่อยานอวกาศลำนี้ได้พามนุษย์คนแรกไปเหยียบพื้นผิวของดวงจันทร์เป็นผลสำเร็จ ภาพของ นิลอาร์มสตรอง ขณะที่ก้าวเดินอยู่บนดวงจันทร์ถูกเผยแพร่ผ่านโทรทัศน์สู่สายตาของผู้ชมทั้งโลก

หนังสือหนาแค่นี้ อย่าได้หวังว่าจะลงรายละเอียดหรือดีเลิศแบบเล่มเดียวอธิบายได้ทุกอย่าง จุดเด่นของเล่มคือสนุก อ่านง่าย ใช้เวลาน้อย อ่านให้เห็นภาพรวม อ่านให้เห็นความรุ่งเรือง(และล่มสลาย)ของเศรษฐกิจโลกในแต่ละช่วง ส่วนใครสนใจเรื่องไหนก็คงต้องไปหาอ่านเพิ่มเติมเอาเอง

นอกจากญี่ปุ่น ชาวดัตก็ตั้งเมืองท่าค้าขายกับจีน ที่เกาะฟอโมซา หรือปัจจุบันคือไต้หวัน มีสินค้าสำคัญคือเครื่องลายคราม และใบชา

ความโลภ ความกลัว ของมนุษย์นั้น แม้ที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่าสร้างอันตรายได้มากแค่ไหน แต่มันก็เป็นวัฏจักร ไม่มีวันหมดไป

หนังสืออุดมไปด้วย information แต่ขาด details เรียบเรียงเรื่องราวได้น่าสนใจแต่ขาดมุมมองเชิงลึกและความเชื่อมโยงของข้อมูลที่เขียนมาในเนื้อหา เหมาะสำหรับคนที่อยากรู้เรื่องราวแบบ Over-all เศรษฐกิจโลก 1000 ปี และไม่ได้เน้นการเจาะลึก

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็มีความขัดแย้งจากผลของสงครามเย็น มีศูนย์กลางที่ประเทศเวียดนาม

เรื่องราวตั้งพันปี จะขีดแบ่งยังไง ต้องจบในเล่มเดียว แถมเล่มไม่ได้หนาด้วย

ไม่รอช้า แกะกล่อง แวบแรกนึกว่าหนังสือเกี่ยวกับน้ำมัน เพราะปกมันดำขลับ พอพลิกพบว่ากระดาษดีมาก ฝืดในระดับพอเหมาะ ให้ผิวสัมผัสที่ดี ( เวลาอ่านหนังสือที่กระดาษดี รู้สึกฟิน ) แอบติงนิดนึงว่ามีกลิ่นแปลกๆ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสารเคลือบผิวหรือเปล่า

Report this page